หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558

มะม่วงกะล่อน(มะม่วงโบราณ)


มะม่วงกะร่อน

มะม่วงกะร่อน ชื่ออื่น ม่วงเทียน มะม่วงป่า มะม่วงขี้ไต มะม่วงเทพรส

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ต้นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 15-30 เมตร โตวัดรอบลำต้น 100-300 ซม. ลำต้นตรง กิ่งก้านสาขาเป็นพุ่มกลมทึบ ตามกิ่งอ่อนเกลี้ยงมีต่อมระบายอากาศประปราย เปลือกสีน้ำตาลปนเทา เรียบหรือแตกเป็นร่องเล็กๆ ไปตามยาวลำต้น ใบ รูปขอบขนาน ขนาดใบกว้าง 3.5-8 ซม. ยาว 14.5-22 ซม. โคนใบมนแคบๆ ปลายใบเรียวหรือเป็นติ่งสั้นๆ เนื้อใบหนาเกลี้ยงเป็นมัน เส้นแขนงใบมี 15-22 คู่ เส้นโค้งและมักเชื่อมต่อกันตอนใกล้ๆ ขอบใบ เส้นร่างแหละเอียดและเห็นชัดทั้งสองด้าน ก้านใบเป็นร่องทางด้านบน โคนก้านบวม ดอก สีขาวแกมเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อตามปลายกิ่งและง่ามใบ แต่ละช่อยาวประมาณ 25 ซม. ตามก้านช่อมีขนสากทั่วไป กลีบรองกลีบและกลีบดอกมีอย่างละ 5 กลีบ โคนกลีบดอกมีเส้นกลีบ 3 เส้น เกสรตัวผู้มี 5 อัน ไม่มีเกสรตัวผู้ปลอม เกสรตัวผู้มีขนาดสั้นยาวไม่เท่ากัน ผล รูปมนหรือป้อม ผลแก่สีเหลืองแกมเขียว ขนาดกว้าง 3-4.5 ซม. ยาว 4-7 ซม. เนื้อเยื่อบางๆ รสหวาน กลิ่นหอม เมล็ดใหญ่

วิธีกินก็ต้องเรียนรู้

หากจะปอกเปลือก ก็จะเสียเวลา ไม่ทันใจ ..นำมะม่วงกะล่อนสุกล้างน้ำ ล้างยางให้สะอาด เริ่มเลยคะ
ปาดหัวออกเพื่อทำการบีบเม็ดข้างในออกมา แต่ต้องค่อย ๆ บีบนะคะ (แรงไปจะกระเด็นจนอดกินของอร่อย)จากนั้นเอาข้างเหนียวมายัดแทนเมล็ดที่บีบออกมาแล้วก็บี้ ๆ ขยำ ๆ (เพราะกะร่อนจะมีส่วนเนื้อที่ติดกับเปลือกอร่อยที่สุด) และถ้าชอบกะทิก็หยอดอีกนิด รับรอง ! คุณจะหลงเสน่ห์มะม่วงกะร่อนนี้ไปอีก
นาน










1 ความคิดเห็น: